วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ภาษาประเทศเวียดนาม
ภาษาเวียดนาม (Tiếng Việt, Việt ngữ) เป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ และเป็นภาษาทางการของประเทศเวียดนาม เป็นภาษาแม่ของประชากรเวียดนามถึง 87% รวมถึงผู้อพยพจากเวียดนามประมาณ 2 ล้านคน และรวมถึงชาวเวียดนาม-อเมริกันเป็นจำนวนพอสมควรด้วย ถึงแม้ว่าจะมีการยืมคำศัพท์จากภาษาจีน และเดิมใช้อักษรจีนเขียน แต่นักภาษาศาสตร์ยังคงจัดภาษาเวียดนามให้เป็น ภาษากลุ่มออสโตรเอเซียติก ซึ่งในกลุ่มนี้ภาษาเวียดนามมีผู้พูดมากที่สุด (10 เท่า ของภาษา ที่มีจำนวนคนพูดเป็นอันดับรองลงมา คือ ภาษาเขมร) ในด้านระบบการเขียนของภาษาเวียดนามนั้น แต่เดิมใช้ตัวเขียนจีน เรียกว่า "จื๋อญอ" ต่อมาชาวเวียดนามได้พัฒนาตัวเขียนจีนเพื่อใช้เขียนภาษาเวียดนาม เรียกว่า "อักษรจื๋อโนม" แต่ในปัจจุบันเวียดนามใช้ตัวอักษรโรมันที่พัฒนาขึ้นโดยมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส โดยเครื่องหมายเสริมสัทอักษรใช้เป็นวรรณยุกต์
อาหารประเทศเวียดนาม
อาหารเวียดนามเป็นอาหารประจำชาติของชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นอาหารที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นของตัวเอง ชาวเวียดนามกินข้าวเป็นอาหารหลักเช่นเดียวกับชาติอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใช้เครื่องปรุงรสที่เป็นของหมักดองเช่นเดียวกัน เนื่องจากปูมหลังทางประวัติศาสตร์ที่เคยถูกจีนและฝรั่งเศสปกครอง จึงมีอิทธิพลของทั้งสองชาติปรากฏอยู่บ้าง นอกจากนั้นเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ทอดยาวตามแนวชายฝั่ง ทำให้อาหารเวียดนามแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน อาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักดีและเป็นเอกลักษณ์คือแหนมเนืองและขนมเบื้องญวน
ดอกไม้ประเทศเวียดนาม
บัว ดอกไม้ประจำชาติของ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ชื่อพื้นเมือง -
ลักษณะทั่วไป บัว เป็นพรรณไม้น้ำประเภทพืชล้มลุก มีลำต้นและหัวอยู่ในดินใต้น้ำ
ใบ การเจริญชูก้านใบและดอกขึ้นมาบนผิวน้ำ ใบมีลักษณะกลมกว้างใหญ่
ผิวใบเรียบ มีสีเขียวหรือน้ำตาลอ่อน
ดอก ดอกเป็นกลีบซ้อนกันหลายขั้น ลักษณะดอกคล้ายรูปกรวย เวลาบานคล้ายกับร่ม
ดอกมีสีขาว ชมพู เหลือง
ผล ผลคือส่วนที่อยู่ตรงกลางดอก ซึ่งมีเมล็ดประกอบอยู่ภายในจำนวนมาก
ลักษณะ ขนาดสีสรร ของใบและดอกขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์
ด้านภูมิทัศน์ พบได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำของประเทศเวียดนาม
ผู้นำประเทศเวียดนาม
เจือง เติ๊น ซาง (เวียดนาม: Trương Tấn Sang) (21 มกราคม พ.ศ. 2493 — ) เป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเวียดนาม เป็นสมาชิกระดับผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้รับเลือกเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของพรรคจากการประชุมสามัญพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามครั้งที่ 11 ซึ่งจัดที่ฮานอย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2554[1] ต่อมาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของเวียดนามจากการลงคะแนนระดับประเทศในเดือนกรกฎาคม
วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ธงชาติประเวียดนาม
สีเหลืองนับเป็นสีของชาวเวียดนามมาแต่โบราณ ปรากฏหลักฐานครั้งแรกในประวัติศาสตร์เวียดนามโบราณว่า วีรสตรีตระกูลจึงสองพี่น้องได้ใช้ธงสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการปกครองของจักรวรรดิจีนราชวงศ์ฮั่นใน พ.ศ. 593 ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 เมื่อจักรพรรดิยาลอง ทรงสถาปนาราชวงศ์เหวียนแล้ว ได้ทรงเลือกใช้ธงสีเหลืองดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิเวียดนาม ในช่วงปี พ.ศ. 2345 - พ.ศ. 2363
พ.ศ. 2433 จักรพรรดิ Thành Thái ได้มีพระราชโองการให้เปลี่ยนธงแบบเดิมที่มีอักษรจีน (จื๋อญอ) ประกอบในธงเป็นธงแบบใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นธงสีเหลืองกลางมีแถบริ้วสีแดงสามริ้ว ธงนี้ได้ใช้ในฐานะธงชาติเวียดนามแบบแรกสุดอย่างเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ. 2433 - พ.ศ. 2463 และนับเป็นธงชาติของคนเวียดนามอย่างแท้จริงธงแรกเช่นกัน เพราะธงนี้ไม่ใช่เป็นแต่เพียงธงของจักรพรรดิดังในอดีตที่ผ่านมา แต่ยังเป็นธงที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจและความหวังของประชาชน ในความเป็นเอกราชและการรวมชาติเวียดนามให้เป็นหนึ่งเดียวอีกด้วย
ต่อมาในช่วง พ.ศ. 2459 - พ.ศ. 2468 ภายหลังจากการเนรเทศจักรพรรดิแทงไท (Thanh Thai) และจักรพรรดิดุยทาน (Duy Tan) ไปยังทวีปแอฟริกาโดยฝรั่งเศสแล้ว จักรพรรดิไค้ดิ่ง (Khải Định) ได้มีพระบรมราชโองการให้เปลี่ยนธงชาติใหม่ โดยยังคงเป็นธงพื้นสีเหลืองเช่นเดิม แต่แถบริ้วสีแดงแนวทั้ง 3 แถบได้เปลี่ยนเป็นแถบสีแดงเพียงหนึ่งเดียว แต่มีความกว้างเท่ากับแถบสีแดงทั้งสามแถบรวมกัน เพื่อสื่อความหมายถึงความเป็นเอกภาพของเวียดนามทั้งสามส่วน คือ เวียดนามเหนือ เวียดนามกลาง และเวียดนามใต้ ธงนี้มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า ธงลองตินห์ (“Long Tinh”
ประวัติประเทศเวียดนาม
อารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ในเวียดนามมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะอารยธรรมยุคหินใหม่ ที่มีหลักฐานคือกลองมโหระทึกสำริด และชุมชนโบราณที่ดงเซิน เขตเมืองแทงหวา ทางใต้ของปากแม่น้ำแดง สันนิษฐานว่าบรรพบุรุษของชาวเวียดนามโบราณผสมผสานระหว่างชนเผ่ามองโกลอยด์เหนือจากจีนและใต้ ซึ่งเป็นชาวทะเล ดำรงชีพด้วยการปลูกข้าวแบบนาดำและจับปลา และอยู่กันเป็นเผ่า บันทึกประวัติศาสตร์ยุคหลังของเวียดนามเรียกยุคนี้ว่าอาณาจักรวันลาง มีผู้นำปกครองสืบต่อกันหลายร้อยปีเรียกว่า กษัตริย์หุ่ง แต่ถือเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)